PATENT

สิทธิบัตร

บริการรับจดทะเบียนสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร
จดทะเบียนสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์

ค่าบริการเพียง 5,900 บาท

ปรึกษาฟรี เรื่องจดสิทธิบัตร

จดทะเบียนสิทธิบัตร

บริการยื่นจดสิทธิบัตรตั้งแต่เริ่มจนได้ใบรับจดทะเบียน

จดทะเบียนอนุสิทธิบัตร

จดอนุสิทธิบัตรตั้งแต่เริ่มจนได้ใบรับจดทะเบียน

จดทะเบียนออกแบบผลิตภัณฑ์

ยื่นจดแบบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มจนได้ใบจดทะเบียน

บริการด้านสิทธิบัตรของ IP-Thailand

  • บริการรับจดทะเบียนสิทธิบัตร จดทะเบียนอนุสิทธิบัตร และ จดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบ
  • รวมถึงการสืบค้นและตรวจค้นข้อมูลจดทะเบียนสิทธิบัตร จดทะเบียนอนุสิทธิบัตร และ จดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบ
  • นอกจากนี้ ทาง IP-Thailand ยังมีบริการการชำระค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับการจดทะเบียนสิทธิบัตร การจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร และ การจดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบ
  • และจดทะเบียนโอนสิทธิบัตร จดทะเบียนโอนอนุสิทธิบัตร และ จดทะเบียนโอนสิทธิบัตรการออกแบบ
  • จัดทำสัญญา Licensing และข้อตกลงอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร และ สิทธิบัตรการออกแบบ
  • บริการจัดทำรูปเขียนประกอบการจดสิทธิบัตร จดอนุสิทธิบัตร และ จดการออกแบบ
  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิบัตร จดทะเบียนอนุสิทธิบัตร และ จดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบ

การจดทะเบียนสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร

ขั้นตอนการดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตร

1.สืบค้น สิทธิบัตรที่ได้เปิดเผยไว้แล้ว

2.ร่างเนื้อหาและจัดทำรูปเขียน

3.ยื่นจดทะเบียนและรอการพิจารณาอนุมัติ

เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตร

1.หนังสือมอบอำนาจ

2.กรณีบริษัท: สำเนาหนังสือรับรองบริษัท + สำเนาบัตรปชช.กรรมการ

3.กรณีบุคคลธรรมดา: รับรองสำเนาบัตร ปชช.

4.สำเนาบัตรปชช.ของผู้ประดิษฐ์

5.หนังสือแสดงสิทธิในการขอรับสิทธิบัตร 

6.หนังสือสัญญาโอน

การจดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนการดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตร

1.สืบค้น สิทธิบัตรที่ได้เปิดเผยไว้แล้ว

2.ร่างเนื้อหาและจัดทำเอกสาร

3.ยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรและรอการพิจารณาอนุมัติ 

เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตร

1.หนังสือมอบอำนาจ 

2.กรณีบริษัท : สำเนาหนังสือรับรองบริษัท / สำเนาบัตปชช. กรรมการ

3.กรณีบุคคลธรรมดา : รับรองสำเนาบัตร ปชช.

4.สำเนาบัตรปชช.ของผู้ออกแบบ

5.หนังสือแสดงสิทธิในการขอรับสิทธิบัตร 

6.หนังสือสัญญาโอน 

สิทธิบัตร (Patents)

  • สิทธิบัตร (Patent) คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Industrial Design) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์   และอนุสิทธิบัตร ผู้ทรงสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาผลประโยชน์จาก การประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรนั้น ภายในระยะเวลาตามที่ กฎหมายกำหนด

  • สิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Invention Patent) หมายถึง การให้ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์ ในการคิดค้นเกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบโครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต การเก็บรักษา หรือการปรับปรุง คุณภาพของผลิตภัณฑ์

  • สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent) หมายถึง การให้ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบของลวดลายหรือสีของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถใช้เป็นแบบสำหรับการผลิตภัณฑ์เชิงอุตสาหกรรม รวมทั้งหัตถกรรมได้ และมีความแตกต่างไปจากเดิม

  • อนุสิทธิบัตร (Petty Patent) คือ คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์จะมีลักษณะคล้ายกันกับการประดิษฐ์ แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมาก หรือเป็นการประดิษฐ์คิดค้นเพียงเล็กน้อย และมีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการรักษาหรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น หรือทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น กลไกของเครื่องยนต์ ,ยารักษาโรค, วิธีการในการเก็บรักษาพืชผักผลไม้ไม่ให้เน่าเสียเร็วเกินไป เป็นต้น

  • PCT ย่อมาจาก Patent Cooperation Treaty สนธิสัญญาความเป็นความตกลงระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการขอรับความคุ้มครองร่วมมือด้านสิทธิบัตร สิทธิบัตรการประดิษฐ์ระหว่างประทศ ซึ่งจะช่วยลดภาระ ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย ให้แก่ผู้รับคำขอที่ต้องการขอรับความคุ้มครองในต่างประเทศ ระบบ PCT นี้ไม่ได้เป็นระบบการรับจดทะเบียนสิทธิบัตร การรับจดทเบียนสิทธิบัตร PCT เป็นอำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศที่ผู้ขอประสงค์ จะขอความคุ้มครอง ซึ่งจะมีกรตรวจสอบตามขั้นตอนและเงื่อนไขของกฎหมายภายในประเทศนั้นๆ ก่อนรับจดทะเบียนสิทธิบัตร ประเทศไทยสมัครเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาความร่วมมือค้นสิทธิบัตร เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 ถือเป็นสมาชิกลำดับที่ 142

ความเหมือนและความแตกต่างของสิทธิบัตร /อนุสิทธิบัตร

  • สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร : (เหมือนกัน) ในแง่ของการคุ้มครองลักษณะองค์ประกอบ โครงสร้างหรือกลไกของ ผลิตภัณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการรักษาหรือปรับปรงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไห้ดีขึ้น // – (ต่างกัน) ในแง่ของเงื่อนไขการพิจารณาสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรซึ่งการประดิษฐ์ที่จะขอรับอนุสิทธิบัตรได้อาจจะเป็นการประดิษฐ์ที่มีการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย และมีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น
  • ออกแบบผลิตภัณฑ์ : คุ้มครองรูปร่างหรือรูปทรง ภายนอกของผลิตภัณฑ์รวมถึง ลวดลายหรือสีของผลิตภัณฑ์ //การออกแบบผลิตภัณฑ์ แตกต่างจากการประดิษฐ์ตรงที่เป็นการคุ้มครองโครงสร้างภายนอกของผลิตภัณฑ์ ส่วนการประดิษฐ์เป็นการคุ้มครองโครงสร้างภายในของผลิตภัณฑ์
  • อายุความคุ้มครอง : สิทธิบัตรมีอายุความคุ้มครอง 20 ปี // อนุสิทธิบัตรมีอายุความคุ้มครอง 6 ปี // ออกแบบผลิตภัณฑ์มีอายุความคุ้มครอง 10 ปี 
  • ค่าธรรมเนียม : สิทธิบัตรค่าธรรมเนียม 140,000 บาท // อนุสิทธิบัตรค่าธรรมเนียม 17,000 บาท // ออกแบบผลิตภัณฑ์ค่าธรรมเนียม 7,500 บาท

ประเภทของคุ้มครองสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร

  1. สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร :  สิ่งที่ “การประดิษฐ์”คุ้มครอง ผลิตภัณฑ์ (products), กรรมวิธี (processes), การทำให้ผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีดีขึ้น (improvements of known products or processes) ผู้ประดิษฐ์ ผู้ขอรับสิทธิบัตรสามารถที่จะเลือกขอรับความคุ้มครอง สิทธิบัตรการประดิษฐ์หรืออนุสิทธิบัตรอย่างใดอย่างหนึ่งแต่จะไม่สามารถขอรับความคุ้มครองทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้ // ออกแบบผลิตภัณฑ์ : สิ่งที่ “การออกแบบผลิตภัณฑ์ ” คุ้มครองรูปร่างหรือรูปทรงภายนอกของผลิตภัณฑ์ (shape or configuration) และ ลวดลายหรือสีของผลิตภัณฑ์ (composition of lines or colors)
  2.  เงื่อนไขการให้สิทธิ : สิทธิบัตร 1. ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ 2. มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น 3. สามารถประยุกต์ใช้ทางอุตสาหกรรม // อนุสิทธิบัตร 1. ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ 2. สามารถประยุกต์ใช้ทางอุตสาหกรรม // ออกแบบผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขการให้สิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรมรวมทั้งหัตถกรรม

เงื่อนไขในการขอจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์

  1. เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่

    กล่าวคือ การประดิษฐ์นั้นยังไม่เคยมีการจำหน่าย หรือใช้แพร่หลายในประเทศไทย ก่อนวันยื่นขอหรือยังไม่เคยมีการเปิดเผยสาระสำคัญของการประดิษฐ์นั้นก่อนวันที่ยื่นขอหรือยังไม่เคยมีการเปิดเผยสาระสำคัญของการประดิษฐ์นั้นก่อนวันที่ยื่นขอทั้งในหรือต่างประเทศก่อนวันยื่นคำขอ (เว้นแต่เป็นการแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศหรือการแสดงต่อสาธารณชนที่หน่วยราชการจัดขึ้น แต่ต้องมาขอยื่นรับสิทธิบัตรภายใน 12 เดือน นับแต่วันปิดแสดงงานพร้อมแนบหนังสือรับรองของผู้จัดงานแสดง)

  2. มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น 

    กล่าวคือไม่เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถทำได้ง่ายโดยผู้มีความรู้ในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น หรืออาจพูดได้ว่ามีการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของการประดิษฐ์ที่มีมาก่อน

  3. สามารถประยุกต์ใช้ในงานทางอุตสาหกรรมได้

เงื่อนไขในการขอจดทะเบียนสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์

  1. เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่

    กล่าวคือ การประดิษฐ์นั้นยังไม่เคยมีการจำหน่าย หรือใช้แพร่หลายในประเทศไทย ก่อนวันยื่นขอหรือยังไม่เคยมีการเปิดเผยสาระสำคัญของการประดิษฐ์นั้นก่อนวันที่ยื่นขอหรือยังไม่เคยมีการเปิดเผยสาระสำคัญของการประดิษฐ์นั้นก่อนวันที่ยื่นขอทั้งในหรือต่างประเทศก่อนวันยื่นคำขอ (เว้นแต่เป็นการแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศหรือการแสดงต่อสาธารณชนที่หน่วยราชการจัดขึ้น แต่ต้องมาขอยื่นรับสิทธิบัตรภายใน 12 เดือน นับแต่วันปิดแสดงงานพร้อมแนบหนังสือรับรองของผู้จัดงานแสดง)

  2. สามารถประยุกต์ใช้ในงานทางอุตสาหกรรมได้

    ต้องมีคุณค่าต่ออุตสาหกรรมด้านใดด้านหนึ่ง การประดิษฐ์จะต้องไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความเป็นอยู่ของประชากรโดยรวมหรือประเทศชาติ  

การประดิษฐ์ที่ไม่สามารถขอจดทะเบียนสิทธิบัตรได้

  1. จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่ของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพีช
  2. กฎเกณฑ์และทฤษฎีหงวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
  3. ระเบียบข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
  4. วิธีการวินิฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์
  5. การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสบเรียบร้อยหรือศีลธรมอันดี อนามัยหรือสวัสติภาพของประชาชน

ขั้นตอนดำเนินการขอจดทะเบียนสิทธิบัตร

ผู้ที่ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ย่อมสมควรได้รับผลตอบแทน โดยการได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตร ซึ่งสามารถที่จะนำการประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรนั้นไปผลิต จำหน่าย นำเข้ามาในราชอาณาจักร หรืออนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิบัตรนั้นโดยได้รับค่าตอบแทนก็ได้

1.สิทธิบัตรการประดิษฐ์
1) ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ คือ การประดิษฐ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ยังไม่เคยมี ใช้หรือแพร่หลายมาก่อนในประเทศ หรือไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญ หรือรายละเอียดในเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือ การนำออกแสดง หรือเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อนทั้งในและนอกประเทศ และยังไม่เคยได้รับสิทธิบัตรมาก่อน
2) ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น คือ มีลักษณะที่เป็นการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค หรือไม่เป็นการประดิษฐ์ที่ทำได้โดยง่ายต่อผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น
3) ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ในทางอุตสาหกรรมได้

2. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
ต้องเป็นการออกแบบผลิตภณัฑ์ใหม่เพื่ออุตสาหกรรมซึ่งรวมถึง หัตถกรรม คือ เป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีใช้แพร่หลายในประเทศ ยังไม่ได้เปิดเผยสาระสำคัญหรือ รายละเอียดในเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ก่อนวันขอรับสิทธิบัตร และไม่คล้ายกับแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว

1. การประดิษฐ์ที่ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้
1) จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช
2) กฎเกณฑ์และทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
3) ระเบียบข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
4) วิธีการวินิจฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์
5) การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี อนามัย หรือสวัสดิภาพของประชาชน

2. การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้
1) แบบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่การออกแบบ
2) แบบผลิตภัณฑ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
3) แบบผลิตภัณฑ์ที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา (ยังไม่มีการกำหนด)

สิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีอายุ 20 ปี นับแต่วันยื่นคำขอรับสิทธิบัตร
สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีอายุ 10 ปี นับแต่วันยื่นคำขอรับสิทธิบัตร

อนุสิทธิบัตร มีอายุ 6 ปี นับตั้งแต่วันยื่นคำขอรับอนุสิทธิบัตร และต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปี ตั้งแต่เริ่มต้นปีที่ 5 และปีที่ 6 ทั้งนี้สามารถต่ออายุได้สองครั้ง ครั้งละ 2 ปี (รวม 10 ปี)

คำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ 500 บาท
คำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ 250 บาท
คำขอแก้ไขเพิ่มเติม 50 บาท
การประกาศโฆษณา 250 บาท
คำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ 250 บาท (เฉพาะกรณีการประดิษฐ์กระทำได้ภายใน 5 ปี นับจากวันประกาศโฆษณา) รับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตร 500 บาท
คำคัดค้าน (กระทำได้ภายใน 90 วนั นับจากวันประกาศโฆษณา) 500 บาท
คำอุทธรณ์ 500 บาท
คำขอเปลี่ยนแปลงคำขอรับสิทธิบัตร 100 บาท (กระทำได้ก่อนการประกาศโฆษณาสิทธิบัตร)

สิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตรต่างก็มีขอบเขตในการให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกัน แต่
สิทธิบัตรการประดิษฐ์นั้น เป็นการให้ความคุ้มครองการประดิษฐ์ที่เป็นเทคนิคขั้นสูงขึ้น กล่าวคือ จะต้องมีการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของสิ่งที่มีมาก่อนหรือที่เรียกว่า มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น
ส่วนอนุสิทธิบัตร เป็นการให้คุ้มครองการประดิษฐ์ที่มีเทคนิคไม่สูงมากนัก อาจจะเป็นการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย
ขั้นตอนการขอรับอนุสิทธิบัตรจะใช้ระยะเวลาสั้นกว่าสิทธิบัตรมาก เนื่องจากใช้ระบบจดทะเบียนแทนการใช้ระบบที่ต้องมีการตรวจสอบก่อนรับจดทะเบียน

ผู้ประดิษฐ์คิดค้นสามารถที่จะเลือกว่าจะยื่นขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะขอรับความคุ้มครองทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้
หากจะต้องเลือกยื่นขอรับความคุ้มครอง ควรเลือกยื่นขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรจะดีกว่าอนุสิทธิบัตร
เนื่องจากว่า สิทธิบัตรนั้นเป็นการคุ้มครองเทคนิคขั้นสูงกว่าอนุสิทธิบัตรที่มีเทคนิคไม่สูงมากนัก
ดังนั้น สิทธิบัตรจึงเป็นการให้ความคุ้มครองที่คลอบคลุมมากกว่าอนุสิทธิบัตร

สิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์

ให้เราบริการคุณ!

เราพร้อมดูแล แก้ปัญหา ให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญ มืออาชีพ รวดเร็ว จริงใจ เชื่อถือได้